"การเคี้ยวอาหาร" เป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยให้ความสนใจกันเลยเพราะไม่คิดว่าการเคี้ยวข้าวนานขึ้นเนี้ยจะเป็นประโยชน์หรอก แต่เพื่อนๆก็ไม่ต้องเคี้ยวเป็นชั่วโมงๆนะ การที่เราเคี้ยวอาหารนานขึ้นนอกจากจะช่วยกระเพาะอาหารของเราให้ย่อยอย่างมีประสิทธิภาพแล้วนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะช่วยเรื่องสมองอีกด้วย เพราะทางการแพทย์ได้ยืนยันมาแล้วว่าการเคี้ยวข้าวให้ช้า และนานขึ้น จะช่วยให้สุขภาพดี และอายุยืนยาว ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อสมองในหลายๆ ด้านอีกด้วย
ทุกคนคงสงสัยกันแน่นอนเลยว่าการเคี้ยวอาหารช้าลงเกี่ยวยังไงกับสมอง งั้นมาดูกันเลย
การเคี้ยวอาหารจะช่วยให้ต่อมน้ำลาย และต่อมใต้หูหลั่งฮอร์โมนออกมา และระหว่างที่เราเคี้ยวอาหารอยู่ ปริมาณออกซิเจนในสมองจะเพิ่มขึ้น เซลล์สมองจะทำงานได้ดีขึ้น เมื่อปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น เลือดในสมองก็จะไหลเวียนได้สะดวก และที่สำคัญก็ยังช่วยกระตุ้นพลังในการขบคิด และสร้างสมาธิได้ด้วย ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กลุ่มคนประเภทนี้ก็มีโอกาสที่สมองจะอ่อนแอตามไปด้วย
การเคี้ยวอาหารจะช่วยให้ต่อมน้ำลาย และต่อมใต้หูหลั่งฮอร์โมนออกมา และระหว่างที่เราเคี้ยวอาหารอยู่ ปริมาณออกซิเจนในสมองจะเพิ่มขึ้น เซลล์สมองจะทำงานได้ดีขึ้น เมื่อปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น เลือดในสมองก็จะไหลเวียนได้สะดวก และที่สำคัญก็ยังช่วยกระตุ้นพลังในการขบคิด และสร้างสมาธิได้ด้วย ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กลุ่มคนประเภทนี้ก็มีโอกาสที่สมองจะอ่อนแอตามไปด้วย
แล้วเคี้ยวแบบไหนล่ะ ที่จะเรียกว่าละเอียดแล้วจะส่งผลดีต่อสมอง ซึ่งการเคี้ยว 30-50 ครั้ง/คำ จะช่วยควบคุมอารมณ์ให้เย็นขึ้น ลดความเครียดได้ด้วย แต่ถ้าอยากให้สมองแล่นฉิวก็ควรเคี้ยวอย่างน้อย 60 ครั้ง/คำ ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดี จะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าใน 1 คำสามารถเคี้ยวได้ถึง 200 ครั้ง สม่ำเสมอทุกมื้อ จะยิ่งทำให้สมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น สมองสามารถขบคิดกระบวนการคาดการณ์ และวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้นอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น